แก้ไขการเชื่อมต่อ VPN ที่ช้า: วิธีเพิ่มความเร็วการเชื่อมต่อ VPN ของคุณ

คุณไม่จำเป็นต้องเป็นอัจฉริยะด้านไอทีเพื่อแก้ไขช้าความเร็วที่เกิดจาก VPN ของคุณ - คุณเพียงแค่ต้องอ่านบทความนี้ วันนี้เราจะแนะนำคุณเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการกำหนดค่าของคุณจากนั้นแสดงวิธีเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ VPN ไม่ว่าคุณจะใช้บริการหรืออุปกรณ์ใดเป็นขั้นตอน

เครือข่ายส่วนตัวเสมือนเป็นที่รู้กันว่าเชื่อถือได้ใช้งานง่ายและยอดเยี่ยมสำหรับการปกป้องกิจกรรมออนไลน์ของคุณ พวกเขายังมีชื่อเสียงในด้านการช้ากว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้เข้ารหัสและสำหรับผู้ใช้เว็บบางคนนั่นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ โชคดีที่คุณไม่ต้องใช้ VPN ที่ช้าหากคุณมีเครื่องมือที่เหมาะสมในการใช้งาน คุณสามารถเร่งความเร็วการเชื่อมต่อ VPN ของคุณด้วยการปรับแต่งง่ายๆเพียงทำตามเคล็ดลับของเราด้านล่างและคุณจะกลับไปที่การท่องเว็บเร็วทันใจในเวลาไม่นาน

การเลือก VPN ที่ดีที่สุดและเร็วที่สุด

ในการแสวงหาออนไลน์ที่เป็นส่วนตัวและปลอดภัยประสบการณ์ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ หันมาใช้ VPN เป็นโซลูชั่นแบบครบวงจร VPN ให้ข้อมูลแบบไม่ระบุตัวตนพวกเขาเข้ารหัสข้อมูลเพื่อให้บุคคลที่สามไม่สามารถอ่านได้และพวกเขาแย่งตำแหน่งของคุณเพื่อทำให้เป็นเรื่องยากหากไม่สามารถติดตามกิจกรรมกลับไปที่อุปกรณ์ของคุณได้ คุณสมบัติเหล่านี้จำเป็นสำหรับการท่องเว็บแบบส่วนตัว แต่อาจมีราคา

การอ่านที่เกี่ยวข้อง: เบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยที่สุดที่จะเลือก

ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi ในที่ทำงานหรือที่ช้าความเร็วในการดาวน์โหลดที่บ้านไม่มีอะไรทำลายวันของคุณเช่นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่ดี คุณสมบัติความปลอดภัยที่ VPN เสนอให้มีชื่อเสียงว่าอยู่ที่ใดก็ได้ระหว่าง 10% ถึง 40% ช้ากว่าอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้เข้ารหัส ความเร็วลดลงเช่นนั้นเพียงพอที่จะทำให้คุณต้องการลบความเป็นส่วนตัวออกไปนอกหน้าต่างเพียงเพื่อให้คุณสามารถสตรีมภาพยนตร์ได้โดยไม่ต้องบัฟเฟอร์ทุกสามสิบวินาที

ข่าวดีก็คือไม่ใช่ว่า VPN ทั้งหมดจะทำงานช้า ด้วยการเลือกบริการที่เหมาะสมกับเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดคุณสามารถหลบปัญหาความเร็วส่วนใหญ่ก่อนที่จะเกิดขึ้นได้ เราเปรียบเทียบผู้ให้บริการ VPN ชั้นนำเพื่อค้นหาผู้ที่เร็วที่สุดในตลาด ตรวจสอบคำแนะนำของเราด้านล่างและคุณจะเพลิดเพลินไปกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบส่วนตัวโดยไม่ระบุชื่อโดยไม่ลดความเร็ว

1. ExpressVPN

ExpressVPN มีชื่อเสียงที่สมควรได้รับสำหรับความรวดเร็วเป็นมิตรและใช้งานง่าย ซอฟต์แวร์ได้รับการออกแบบอย่างหรูหราสำหรับการเข้าถึงการเชื่อมต่อความเร็วสูงในอุปกรณ์ทุกประเภทรวมถึงพีซีแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว คุณยังคงได้รับประโยชน์จากการเข้ารหัส AES 256 บิตนโยบายการเข้าสู่ระบบที่เป็นศูนย์สำหรับข้อมูลการรับส่งข้อมูลทั้งหมดและทั้งสวิตช์ฆ่าและการป้องกันการรั่วไหลของ DNS แต่คุณไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความเร็วการสตรีมวิดีโอช้าในเวลาเดียวกัน

เซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ครอบคลุมกว่า 140 แห่งด้วย 3,000+ เซิร์ฟเวอร์ใน 94 ประเทศที่แตกต่างกัน สิ่งนี้แปลโดยตรงถึงความเร็วที่ดีขึ้นและคะแนนความล่าช้าที่ลดลงทั่วโลกไม่ว่าคุณจะอยู่ทำงานหรือท่องเที่ยว ดียิ่งขึ้นแอป ExpressVPN จำนวนมากเสนอการทดสอบความเร็วในตัวเพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการเชื่อมต่อที่เร็วที่สุด

อ่านบทวิจารณ์ ExpressVPN ทั้งหมดของเรา

2. NordVPN

NordVPN มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมมากมายที่ช่วยทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับ VPN ที่เร็วที่สุด คุณสมบัติที่ใหญ่ที่สุดคือเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของ บริษัท รายการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ในขณะที่เขียนมันอยู่ที่เพียง 5,800 เซิร์ฟเวอร์ใน 60 ประเทศ การเชื่อมต่อจำนวนมหาศาลนี้หมายความว่าคุณจะไม่ต้องลำบากใจกับการดาวน์โหลดที่รวดเร็วหรือล่าช้าน้อยที่สุด แม้ว่าคุณจะเดินทางไปยังพื้นที่ด้อยโอกาสของโลก แต่ NordVPN ก็มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ที่นั่นพร้อมและรออยู่

เพื่อให้คุณออนไลน์อย่างปลอดภัย NordVPN ใช้ความแข็งแกร่งการเข้ารหัส AES 256 บิตสำหรับการเชื่อมต่อทั้งหมดเสนอสวิตช์ฆ่าและการป้องกันการรั่วไหลของ DNS และปรับใช้การบันทึกที่ไม่ต้องใช้ความละเอียดสูงซึ่งครอบคลุมการประทับเวลาการรับส่งข้อมูลการบันทึก DNS และอื่น ๆ NordVPN ยังให้บริการเซิร์ฟเวอร์เฉพาะสำหรับการป้องกัน DDoS ที่เพิ่มขึ้น, หัวหอมมากกว่าการกำหนดเส้นทาง VPN และการเข้ารหัสสองเท่าในกรณีที่คุณมีเวลาคร่าวๆ

อ่านบทวิจารณ์ NordVPN ทั้งหมดของเรา

3. IPVanish

IPVanish ให้สมดุลที่ดีของความเร็วและความปลอดภัย บริการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสตรีมวิดีโอและผู้ที่ชื่นชอบ Netflix, YouTube, ภาพยนตร์ BitTorrent หรือ Kodi IPVanish ช่วยให้คุณปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส AES 256 บิตการป้องกันการรั่วของ DNS และสวิตช์ฆ่าอัตโนมัติบนอุปกรณ์ทั้งหมดรวมถึงแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน นอกจากนี้คุณจะปลอดภัยกับนโยบายการบันทึกข้อมูลที่ไม่มีการสะดุดสำหรับทราฟฟิกทั้งหมดทำให้มั่นใจได้ว่ากิจกรรมของคุณจะไม่ตกอยู่ในมือของผู้อื่น

IPVanish ดำเนินเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 1,300 แห่งในสถานที่ต่างๆกว่า 75 แห่งทั่วโลกซึ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรม นี่คือคุณสมบัติหลักที่ยอดเยี่ยมที่แปลว่าการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและความล่าช้าต่ำอย่างไม่น่าเชื่อไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด

อ่านบทวิจารณ์ IPVanish ทั้งหมดของเรา

4. VyprVPN

VyprVPN เป็นหนึ่งใน VPNs ที่เติมช่องเฉพาะในตลาด. หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการเซ็นเซอร์ระดับสูงของรัฐบาลหรือหากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวอันดับต้น ๆ ใน VPN ของคุณ Vypr เป็นบริการสำหรับคุณ บริษัท มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 700 แห่งใน 70 ประเทศซึ่งเป็นเครือข่ายที่แข็งแกร่งทั้งที่เป็นเจ้าของและดำเนินการภายในเพื่อช่วยป้องกันการรั่วไหลของความปลอดภัย นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าถึงที่อยู่ IP 200,000, การเข้ารหัส AES 256 บิต, การป้องกันการรั่วไหลของ DNS, สวิตช์ฆ่าอัตโนมัติและนโยบายการบันทึกศูนย์ที่ครอบคลุมการร้องขอการรับส่งข้อมูลและ DNS

จุดขายที่ยิ่งใหญ่สำหรับ VyprVPN นั้นเป็นของตัวเองมากเทคโนโลยีกิ้งก่า โปรโตคอลนี้จะห่อข้อมูลเมตาของแต่ละแพ็คเก็ตในชั้นของการเข้ารหัสพิเศษเอาชนะการตรวจสอบแพ็คเก็ตลึกและผ่านบล็อกการเซ็นเซอร์ได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถใช้ Chameleon เพื่อรักษาความปลอดภัยและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบเปิดได้ทั่วโลกรวมถึงสถานที่ต่าง ๆ เช่นจีนรัสเซียและตุรกี กิ้งก่าจะทำให้ความเร็วของคุณช้าลงเล็กน้อย แต่บางครั้งการเชื่อมต่อใด ๆ ก็ดีกว่าไม่มีการเชื่อมต่อใด ๆ

อ่านรีวิว VyprVPN เต็มของเรา

การวินิจฉัยการเชื่อมต่อ VPN ที่ช้า

การเชื่อมต่อ VPN ที่ช้าอาจเป็นผลมาจากการโหลปัญหาต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้บางส่วนนั้นเรียบง่ายและใช้งานได้ง่ายส่วนคนอื่นยากกว่าและสามารถแก้ไขได้ทางอ้อมเท่านั้น ก่อนที่คุณจะเพิ่มความเร็ว VPN ได้คุณต้องหาว่าอะไรทำให้ช้าลงในตอนแรก

อาการที่เกิดจากการเชื่อมต่อที่ช้า

การบอกว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณรู้สึกว่าไม่ช้าคำจำกัดความที่แม่นยำมาก ในการแก้ไขปัญหาคุณต้อง จำกัด ขอบเขตให้แคบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้านล่างนี้เป็นสิ่งที่คนทั่วไปพูดถึงเมื่อบ่นเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ไม่ดี การรู้ว่าปัญหาใดที่ส่งผลต่อคุณสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากเมื่อถึงเวลาต้องปรับแต่ง VPN เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

• หน้าเว็บโหลดช้า
• สตรีมภาพยนตร์ขาด ๆ หาย ๆ
• เกมออนไลน์มีความล่าช้า
• การดาวน์โหลดช้า
• ไฟล์ฝนตกหนัก

เกิดอะไรขึ้นการชะลอตัว

เมื่อคุณกำหนดประเภทของการชะลอตัวที่คุณกำลังประสบอยู่ก็ถึงเวลาที่จะดูสาเหตุเฉพาะที่อยู่เบื้องหลังการเชื่อมต่อที่ไม่ดี

• เครือข่าย VPN ไม่ดี - มีความเป็นไปได้ที่ VPN จะเป็นไปได้เสมอเครือข่ายเป็นเพียงคุณภาพต่ำตั้งแต่เริ่มต้น หากคุณใช้ VPN ฟรีนี่อาจเป็นไปได้ว่า หากคุณใช้บริการชำระเงิน บริษัท อาจมีปัญหากับโหนดเซิร์ฟเวอร์บางรายการที่คุณเชื่อมต่อ ปัญหานี้ทำให้เกิดปัญหาการชะลอตัวข้างต้นทั้งหมดและอื่น ๆ
• เซิร์ฟเวอร์ที่แออัด - ยิ่งมีคนเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งช้าเท่านั้น วิธีนี้จะเพิ่มความล่าช้า (ล่าช้า) และน่าผิดหวังอย่างยิ่งเมื่อคุณสตรีมภาพยนตร์หรือเล่นเกมออนไลน์
• ISP ชะลอตัว - ไม่ว่า VPN ของคุณจะดีแค่ไหนคุณก็ยังอยู่ถูก จำกัด ด้วยความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ ISP ของคุณให้ไว้ หากเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาแออัดหรือหากแผนบริการของคุณ จำกัด ความเร็วในการดาวน์โหลดคุณจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ด้วย VPN
• ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ท้องถิ่น - ในที่สุดการชะลอตัวของ VPN อาจเกิดจากตัวคุณเองเครือข่ายภายในบ้าน หากเราเตอร์ของคุณไม่ดีโมเด็มของคุณมีข้อผิดพลาดอุปกรณ์ของคุณใช้พลังงานต่ำหรือหากคุณกำลังใช้งานซอฟต์แวร์ที่รบกวนการเชื่อมต่อของคุณอาจเป็นสาเหตุของปัญหาการชะลอตัวทั้งหมดของคุณ

วิธีแก้ไขการเชื่อมต่อ VPN ที่ช้า

อินเทอร์เน็ตช้าเป็นหนึ่งในที่น่าผิดหวังที่สุดสิ่งต่าง ๆ ในยุคปัจจุบัน ผู้ใช้ VPN มีแนวโน้มที่จะพบสิ่งนี้มากกว่านักท่องเว็บทั่วไปซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณควรเตรียมข้อมูลไว้ด้านล่าง

ตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ VPN ของคุณ

VPNs ส่วนใหญ่เสนอการเชื่อมต่อที่รวดเร็วในคลิกเดียวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดสำหรับคุณโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดทั้งวันอย่างไรก็ตามหมายความว่าคุณจะไม่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดเสมอ หากการเชื่อมต่อของคุณช้าลงเพียงรีเฟรชรายการและสลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่แตกต่างกันซึ่งอยู่ใกล้กับตำแหน่งทางกายภาพของคุณหรือไม่ได้อยู่ในที่ที่มีประชากรหนาแน่น สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากความล่าช้าเป็นปัญหาความเร็วหลักของคุณ

ตรวจสอบการตั้งค่าการเข้ารหัส VPN ของคุณ

VPN บางอันโดดเด่นที่สุดคือบริการที่เราแนะนำด้านบนเสนอชุดการตั้งค่าที่ช่วยให้คุณปรับแต่งโปรโตคอลการเข้ารหัสของคุณเพื่อประสบการณ์การท่องเว็บที่เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น กฎทั่วไปเกี่ยวกับการเข้ารหัสคือ“ ยิ่งแข็งแกร่งยิ่งช้ากว่า” ดังนั้นหากการดาวน์โหลดและเวลาในการโหลดเว็บไซต์ช้าลงให้ข้ามไปที่เมนูการตั้งค่า VPN และดูว่าคุณสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง ด้านล่างนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปที่ผู้ให้บริการ VPN ส่วนใหญ่จะเสนอ

• ลดความแรงของการเข้ารหัสเพื่อเพิ่มความเร็ว อย่างไรก็ตามวิธีที่ดีที่สุดคือไม่ควรต่ำกว่า 128 บิตแม้ว่าจะมีการกำหนดตัวเลือกไว้ก็ตาม
• ปิดมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม คุณลักษณะที่เพิ่มความแข็งแกร่งของการเข้ารหัสหรือให้การไม่เปิดเผยชื่อที่ดีกว่ามักทำให้ความเร็วลดลงอย่างมาก
• สลับโปรโตคอล การอภิปราย UDP / TCP ไม่มีคำตอบที่ตรงไปตรงมา แต่ถ้า VPN ของคุณให้การเชื่อมต่อผ่านสิ่งใดสิ่งหนึ่งและมันช้าไปหน่อยลองสลับไปที่อีกอันเพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า

หยุด ISP การควบคุมปริมาณด้วยการสลับพอร์ต

ปัญหาการชะลอตัวของคุณไม่ได้เกิดจากคุณเสมอไปฮาร์ดแวร์หรือ VPN บางครั้งมันก็ทั้งหมดที่ ISP ของคุณ หากดูเหมือนว่าไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้การเชื่อมต่อของคุณเร็วขึ้นเป็นไปได้ว่า ISP ของคุณอาจเร่งปริมาณการใช้ VPN VPNs ส่วนใหญ่ให้วิธีแก้ไขปัญหาง่าย ๆ สำหรับข้อ จำกัด นี้ ลองใช้การทดสอบความเร็วทั้งที่มีและไม่มี VPN ที่ใช้งานอยู่เพื่อดูว่ามีความคมชัดในผลลัพธ์หรือไม่จากนั้นให้ทำตามคำแนะนำด้านล่างเพื่อดูว่ามีประโยชน์หรือไม่

• เปลี่ยนเป็น UDP หรือ TCP พอร์ต 80 หรือ 53 นอกจากนี้คุณยังสามารถลองเปลี่ยนเป็นพอร์ตที่สูงกว่าซึ่งอยู่เหนือช่วง 40000
• ใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสทางเลือกเช่น SSH หรือ SSL หาก VPN ของคุณมีให้ สิ่งเหล่านี้ช่วยปกปิดการเข้าชมของคุณเพื่อกำจัดความพยายามในการควบคุมปริมาณ

ใช้การเชื่อมต่อแบบมีสายแทน Wi-Fi

ปัญหาความเร็วที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้นมากมายข้อ จำกัด ของ Wi-Fi เทียบกับการเชื่อมต่อแบบใช้สาย หากคุณกำลังใช้แล็ปท็อปหรือพีซีให้ดูว่าการต่อสายเคเบิลทางกายภาพเข้ากับเราเตอร์ของคุณช่วยแก้ปัญหาความเร็วได้หรือไม่ คุณสามารถลองขยับเข้าใกล้เราเตอร์มากขึ้นหรือตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัญญาณนั้นไม่ได้ถูกปิดกั้นโดยผนังหรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ

แก้ไข Torrents ที่ช้า

การดาวน์โหลดฝนตกหนักช้าเป็นปัญหาทุก VPNข้อตกลงผู้ใช้กับครั้งเดียวหรืออื่น ๆ สาเหตุหลักของเรื่องนี้คือ VPN เองบล็อกหรือเชื่อมต่อปริมาณฝนตกหนัก หากบริการของคุณเป็นเช่นนี้คุณจะไม่สามารถดำเนินการใด ๆ เพื่อเร่งความเร็วในการดาวน์โหลด หากพวกเขาไม่ลองเปลี่ยนโปรโตคอลและเปิดพอร์ตในการตั้งค่าแอป VPN เพื่อทำให้สิ่งต่าง ๆ เร็วขึ้น

รีบูตเครือข่ายทั้งหมดของคุณ

วิธีการทดลองใช้จริงและเป็นความจริงในการรีบูตเครื่องบางครั้งทุกอย่างใช้งานได้จริงแม้ในแง่ของความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ช้าก็ตาม ปิด VPN ปิดคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นจากนั้นรีบูตเราเตอร์และโมเด็มอินเทอร์เน็ตของคุณ รอให้พวกเขาใช้พลังงานครบวงจรจากนั้นเริ่มการเชื่อมต่อของคุณและเปิดใช้งาน VPN อีกครั้ง

ข้อ จำกัด ของการเร่งความเร็ว VPN

คุณสามารถปรับแต่งรีบูตปรับแต่งและแฮ็คแต่ในตอนท้ายของวันมีข้อ จำกัด ว่าคุณสามารถสร้าง VPN ได้เร็วแค่ไหน ต่อไปนี้เป็นปัญหาทั่วไปที่ควรระวังเมื่อพยายามรับความเร็วที่ดีที่สุด

ISP ของคุณยังคงเป็นข้อ จำกัด

ไม่ว่า VPN ของคุณจะรวดเร็วแค่ไหนก็ไม่สามารถทำได้เร็วกว่าการเชื่อมต่อท้องถิ่นของคุณ หากคุณจ่าย 50 Mbps ผ่าน ISP ของคุณนั่นเป็นจำนวนสูงสุดที่ VPN ของคุณสามารถจัดหาได้แม้ว่าจะมีความสามารถทางเทคนิคมากกว่าก็ตาม ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะไม่ส่งมอบความเร็วตามที่สัญญาไว้เสมอซึ่งหมายความว่าปัญหาการชะลอตัวบางอย่างสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายในเครื่องแทนเครือข่าย VPN

อ่านน่าสนใจ: ทำความเข้าใจช่องทางอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว

ความเร็วโดยไม่ต้องใช้ VPN

หากคุณมีส่วนร่วมในแบนด์วิดท์สูงต่ำกิจกรรมความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเช่นเกมออนไลน์หรือสตรีมมิ่งภาพยนตร์ผ่าน Netflix คุณอาจจะปิดการใช้งาน VPN สักครู่ สิ่งนี้จะข้ามข้อ จำกัด ของการเข้ารหัสความเร็วและแพ็คเก็ตอย่างเป็นระเบียบและช่วยให้คุณเชื่อมต่อได้มากเท่าที่คุ้มค่า เมื่อเสร็จแล้วให้เปิด VPN อีกครั้งเพื่อความปลอดภัย

ระวัง Boosters ความเร็วปลอม

ส่วนขยาย "บูสเตอร์ความเร็ว" ที่ดูดีและแอพก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่มีความสามารถลึกลับในการเพิ่มความเร็วการเชื่อมต่อของคุณไม่ว่าผู้ให้บริการ VPN รายใดที่คุณใช้สัญญาที่ให้มากกว่าซอฟต์แวร์ clickbait เพียงเล็กน้อย ทำตามคำแนะนำด้านบนเมื่อพูดถึงการเร่งความเร็ว VPN ของคุณ หากทุกอย่างล้มเหลวลองใช้บริการ VPN ใหม่เพื่อดาวน์โหลดที่เร็วขึ้น

VPN ฟรีนั้นช้าที่สุด

การดึงดูด VPN และใช้งานฟรีเก่า ๆแทนที่บริการที่ชำระเงิน เฮ้คุณประหยัดได้สองสามเหรียญต่อเดือนโดยทำอย่างนั้นทำไมไม่เป็นเช่นนั้น ข้อเสียของ VPN ที่ไม่ได้ชำระคือข้อมูลของคุณมีแนวโน้มที่จะถูกขายให้กับบุคคลที่สาม คุณจะต้องทนทุกข์ทรมานจากแบนด์วิดท์สูงสุดการบล็อกการเชื่อมต่อฝนตกหนักและ P2P และการดาวน์โหลดที่ช้าลงทั่วกระดาน บริการ VPN ที่เชื่อถือได้ซึ่งจ่ายได้นั้นรวดเร็วและปลอดภัยกว่าบริการฟรี โดยปกติแล้วพวกเขาจะใช้งานง่ายกว่าและเสนอตัวเลือกการกำหนดค่ามากมายที่คุณสามารถใช้เพื่อรักษาการเชื่อมต่อที่รวดเร็วทุกที่ในโลก

อ่านเพิ่มเติม: VPN ฟรีทำให้ผู้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของ Botnet ได้อย่างไร

ข้อสรุป

VPNs เป็นเครื่องมือที่ทุกคนควรใช้เป็นประจำทุกวัน พวกเขาเพิ่มความเป็นส่วนตัวไม่เปิดเผยชื่อและความปลอดภัยขั้นพื้นฐานกลับไปที่เว็บ VPN นั้นไม่ได้มีข้อ จำกัด แน่นอนว่าหัวหน้าคือความเร็ว ด้วยการปรับแต่งเล็กน้อยคุณสามารถดาวน์โหลดได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จาก VPN ทำให้คุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุดทั้งสองโลก หากคุณมีเทคนิคอื่น ๆ เพื่อแก้ไขการเชื่อมต่อ VPN ที่ช้าโปรดแจ้งให้เราทราบในความคิดเห็นด้านล่าง